อัลไซเมอร์กับภาวะสมองเสื่อม ต่างกันอย่างไรมีความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นระหว่าง
โรคอัลไซเมอร์กับภาวะสมองเสื่อมว่ามีความคล้ายคลึงกัน จนหลายๆคนคิดว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงนั้นโรคอัลไซเมอร์กับภาวสะสมองเสื่อม นั้นมีความแตกต่างกัน
ซึ่งการเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจการวินิจฉัยของแพทย์ได้ดีขึ้นโดย ภาวะสมองเสื่อมหมายถึง กลุ่มอาการผิดปกติที่เป็นผลมาจากการเสื่อมของสมองหลายส่วนซึ่งพบได้ในผู้สูงอายุ โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทตามสาเหตุ ได้แก่
1.ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาให้หายขาดได้พบประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมทั้งหมดโดยสาเหตุมักเกิดจากโรคทางกาย เช่น หลอดเลือดสมองตีบตันเลือดออกในสมอง เนื้องอกในสมองบางชนิดการขาดวิตามินบี12และโรคขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
2.ภาวะสมองเสื่อมที่รักษาไม่หายขาด พบมากถึงร้อยละ 80ของผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อ และมีโรคอัลไซเมอร์เป็นสาเหตุถึงร้อยละ 50 ส่วนที่เหลือเป็นโรคที่ทำให้สมองเสื่อมคล้ายอัลไซเมอร์อีก 5-6 โรค
ดังนั้น อัลไซเมอร์จึงเป็นสาเหตุของภาวะสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุดอายุ จึงจัดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสการเกิดโรคอัลไซเมอร์คือ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งมีโอกาสเกิดโรคมากขึ้น เพราะ สถิติในปัจจุบันพบว่ากลุ่มที่มีอายุราว 65 ปี พบผู้ป่วยอัลไซเมอร์ประมาณร้อยละ 5
กลุ่มผู้ที่มีอายุราว 75 ปี พบผู้ป่วยอัลไซเมอร์ประมาณร้อยละ 15และกลุ่มผู้ที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไป พบผู้ป่วยอัลไซเมอร์มากถึงร้อยละ 40ฉะนั้น จำนวนผู้ป่วยอัลไซเมอร์จึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะการแพทย์ที่เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วนั่นเอง ทำให้อายุไขของคนมากขึ้นตามด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ โรคอัลไซเมอร์ยังสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ประมาณร้อยละ 5 เท่านั้น โดยผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการให้เห็นตั้งแต่อายุ 50-60 ปี
สรุปคือ อาการสมองเสื่อมมักเกิดจากความผิดปกติจากโรคทางกายและมีโอกาสรักษาให้หายได้แต่โรคอัลไซเมอร์ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และหาสาเหตุได้ค่อนข้างยากหากเราสามารถแยกแยะอาการ และ ข้อแตกต่างของสองโรคนี้ได้เราจะสามารถเข้าใจอาการของผู้ป่วยและรักษาได้ตามอาการ ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ป่วยที่สุดนั่นเองค่ะ
Cr. Bumrungrad International Hospital
www.jaruwannurseathome.com
#ศูนย์หาดใหญ่บริการจัดส่งผู้ช่วยพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ_ผู้ป่วย
#Jaruwannurseathome
ใส่ความเห็น